เขียนบทความแบบ Storytelling ให้สนุกเหมือนเล่านิทาน
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อประดิษฐ์ เพิ่งถูกให้ออกจากงานเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ประดิษฐ์ได้เขียนใบสมัครไปอีกหลายที่จนเกือบปีก็ไม่มีวี่แววจะถูกเรียกไปสัมภาษณ์ ในเรซูเม่นั้นเขามีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม มีความสามารถหลายอย่าง วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจเขียนบางอย่างลงไปในใบสมัครงาน เขาเล่าว่าเมื่อก่อนเขามีปัญหาเรื่องภาษาแล้วเขาพยายามจนทุกวันนี้ดีขึ้นมาได้อย่างไร ในที่สุดประดิษฐ์ก็ได้งานจากบริษัทดังกล่าว”
เป็นยังไงบ้างครับ… เมื่อได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ในการเขียนบทความนั้น การเขียนแบบ Storytelling มีความสำคัญ เพราะสามารถสร้างจินตนาการให้เกิดความรู้สึดร่วมได้เป็นอย่างดี และในบทนี้ผมจะมาบอกถึงแนวทางการเขียนบทความแบบ Storytelling ที่จะช่วยสร้าง Engagement ต่อผู้เยี่ยมชม และยังมีผลต่อการทำ SEO อย่างมาก
มี Character, Conflict, Conclusion
อันดับแรกที่การเขียนเรื่องแบบ Storytelling จะต้องมีก็คือ 3C ก็คือ Character, Conflict และ Conclusion เป็นเหมือนกระดูกงูที่สามารถจะพัฒนาโครงเรื่องที่ดีต่อไปได้ Character ก็คือบุคลหรือสัตว์, Conflict หมายถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับ Character, สุดท้าย Conclusion ก็คือวิธีการที่ Character นั้นใช้คลี่คลายปัญหา แล้วได้อะไรบางอย่างที่เป็นบทเรียนกลับมา
อย่างในย่อหน้าแรกที่ยกตัวอย่าง Character ก็คือ ประดิษฐ์, Conflict ก็คือ การถูกให้ออกจากงาน ,Conclusion คือ การตัดสินใจเขียนอะไรที่จริงใจลงไป แล้วในที่สุดก็ประทับใจบริษัท และได้ว่าจ้างเขาทำงานในที่สุด
สูตร 3C นั้นท่านสามารถจะคิดอะไรก่อนหลังก็ได้ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ แต่โดยส่วนตัวข้าพเจ้ามักจะคิดถึง Conflict ก่อนแล้วค่อยมาสร้าง Character รองรับเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือ Conclusion ในท้ายที่สุด
มีทิศทางเดียวกับเนื้อหาโดยรวม
เนื้อเรื่องของ Storytelling นั้นจะต้องมีทิศทางเดียวกับเนื้อหาภาพรวมทั้งหมด จากเนื้อเรื่องข้างต้น “ประดิษฐ์ได้ใช้การเล่าเรื่องประสบการณ์ที่มีคุณค่าในอดีตต่อการพัฒนาตัวตน” ซึ่งมีเนื้อหาไปในทางเดียวกับในเรื่องที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ ดังนั้นการใช้การเล่าเรื่องไปในทางเดียวกัน จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจสถานการณ์ได้ดีกว่า
สร้างเนื้อเรื่องธรรมดาที่ผู้คนจะเข้าถึงได้ง่าย
เรื่องที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกร่วมก็คือเรื่องประจำวันทั่ว ๆ ไปนั่นเอง การสมัครงาน การไปซื้อของ วิ่งออกกำลังกาย เรื่องธรรมดาเหล่านี้มีเสน่ห์เพราะสามารถเข้าถึงผู้อ่านที่จินตนาการผ่านตัวตนได้อย่างง่ายดาย และบางเรื่องผู้อ่านก็เคยมีประสบการณ์ตรงมาก่อน
อย่าคำนึงถึงหลัก SEO มากจนเกินไป
การจะเขียนให้บทความน่าอ่านด้วยวิธีเขียนแบบ Storytelling นั้นบางท่านอาจจะรู้สึกขัดแย้งกับการเขียนโดยคำนึงถึง Keyword อย่างการเขียนแบบ SEO ด้วยเหตุนี้การใช้หลักความสมดุลย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งท่านสามารถเขียนโดยคำนึงหลัก SEO ผสมผสานกับการเขียนแบบ Storytelling ได้อย่างกลมกลืน โดยการเช็คที่ Yoast Plugin

สรุป
การเขียนแบบ Storytelling นั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่าง ซึ่งถึงแม้การเขียนแบบนี้จะไม่ตรงหลัก SEO ซะที่เดียว แต่ประโยชน์ที่ได้กลับมาก็คุ้มค่าไม่แพ้กันหรืออาจจะมากกว่า เพราะเมื่อบทความสนุกน่าอ่านผู้เยี่ยมชมก็อยากแชร์บทความต่อ ๆ ไป หรืออยากอยู่ท่องในเว็บเพื่ออ่านบทความอื่น ๆ ต่อ ซึ่งมีผลต่อ SEO ในแง่บวกเนื่องจากทำให้ค่า Session ที่หมายถึงเวลาที่ใช้ในเว็บเพิ่มขึ้น และค่า Bouce Rate ที่หมายถึงการออกจากเว็บเมื่อเห็นเพียงหน้าแรกมีค่าลดลง
อ่านเพิ่มเติม : เริ่มเขียนบล็อกอย่างไร ให้สนุกและมีสาระ
CR. ภาพประกอบ